วันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2556

ค่า NPSH ของปั๊มน้ำประเภทปั๊มแรงเหวี่ยง (Centrifugal)

ค่า NPSH ของปั๊มน้ำประเภทปั๊มแรงเหวี่ยง (Centrifugal)

          เราทราบแล้วว่า การเกิดคาวิชั่น (Cavitation) เป็นปรากฎการณ์การเกิดโพรงไอ ซึ่งเกี่ยวข้องกับค่า NPSH ที่ศูนย์กลางปากทางดูดของปั๊มไม่เพียงพอ ปั๊มน้ำเกิดการทำงานอย่างไม่สมบูรณ์ ส่งผลให้แรงดันของน้ำไม่คงที่สม่ำเสมอ ค่า NPSH คืออะไร? ค่า NPSH ย่อมาจาก Net Positive Suction Head หมายถึง แรงดันสัมบูรณ์ที่ระดับศูนย์กลางปากทางดูดของปั๊ม คือ จำนวนแรงดันสัมบูรณ์ที่สามารถยกน้ำเข้าปั๊มได้ที่ยังเหลือสุทธิหลังจากที่หักการสูญเสียอื่นๆออกแล้วNPSH มีอยู่ 2 แบบ ได้แก่
1.ค่า NPSH ของระบบ หรือที่ระบบมีอยู่ ซึ่งจะต่างกันไปตามสภาพของระบบปั๊มนั้นๆ 
เรียกว่า Net Positive Suction Head Available 
2.ค่า NPSH ที่มาจากการทดสอบและกำหนดขึ้นมาโดยผู้ผลิตปั๊ม เป็นการทดสอบหาค่า NPSH ที่ปั๊มยังคงทำงานได้ตามที่ต้องการ ที่อัตราการไหล แรงดันและสภาพที่กำหนด ซึ่งค่า NPSH แบบนี้ ทางผู้ผลิตกำหนดจะเป็นค่าที่น้อยที่สุดซึ่งปั๊มจะยังสามารถทำงานได้ตามที่ต้องการ
เรียกว่า Net Positive Suction Head Require 
ดังนั้นเราจะเห็นว่า ปั๊มน้ำทำงานโดยการสร้างแรงดันสุญญากาศที่ทางด้านดูดของปั๊ม จึงทำให้น้ำสามารถไหลผ่านท่อดูดเข้าสู่ตัวปั๊มได้ ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับค่า NPSH ที่อธิบายข้างต้น

ปั๊มน้ำประเภทปั๊มแรงเหวี่ยง (Centrifugal) กับปัญหาการเกิดคาวิชั่นในระบบปั๊ม

ปั๊มน้ำประเภทปั๊มแรงเหวี่ยง (Centrifugal) กับปัญหาการเกิดคาวิชั่นในระบบปั๊ม
            การเกิดคาวิชั่น (Cavitation) ปัญหาหนึ่งที่เกิดขึ้นในระบบปั๊มน้ำ เป็นปรากฎการณ์การเกิดโพรงไอ ซึ่งเกี่ยวข้องกับค่า NPSH (Net Positive Suction Head) ที่ศูนย์กลางปากทางดูดของปั๊มไม่เพียงพอ ปั๊มน้ำเกิดการทำงานอย่างไม่สมบูรณ์ ส่งผลให้แรงดันของน้ำไม่คงที่สม่ำเสมอ มีการเพิ่มขึ้นและลดลงอยู่ตลอดเวลา ทำให้เกิดการสูญเสียทั้งเวลาและกำลังคนที่ต้องใช้ในการแก้ไขและหาสาเหตุของปัญหานี้ ปรากฎการณ์การเกิดโพรงไอ เป็นปรากฎการณ์ในการเปลี่ยนสถานะของน้ำจากของเหลวกลายเป็นไอ และมีปริมาตรเพิ่มขึ้นเนื่องจากการขยายตัวและยุบตัวในภายหลัง ซึ่งมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องจากการเปลี่ยนแปลงความเร็วของน้ำ ที่ขึ้นกับพื้นที่หน้าตัด รูปร่างลักษณะของปั๊มและสถานการณ์อื่นๆ ที่เปลี่ยนแปลง จึงส่งผลทำให้แรงดันของน้ำไม่คงที่สม่ำเสมอ มีการเพิ่มขึ้นและลดลงอยู่ตลอดเวลาดังกล่าว คาวิชั่นเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางฟิสิกส์ของน้ำ ทั้งด้านคุณสมบัติของน้ำที่อุณหภูมิต่างๆ ,การกลายเป็นไอของน้ำและแรงดันไอ รวมทั้งค่า NPSH ของระบบปั๊มที่ทำงานในสภาวะต่างๆ คุณสามารถหลีกเลี่ยงปัญหานี้ได้ ด้วยการเลือกปั๊มน้ำที่มีคุณภาพ ได้รับเครื่องหมาย มอก.

วันเสาร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2556

ปั๊มน้ำประเภทปั๊มแรงเหวี่ยง (Centrifugal) มีวิธีบำรุงรักษาอย่างไร?

ปั๊มน้ำประเภทปั๊มแรงเหวี่ยง (Centrifugal) มีวิธีบำรุงรักษาอย่างไร?
          การดูแลบำรุงรักษาปั๊มน้ำทุกชนิดทุกประเภท ถือว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนาน ลดค่าใช้จ่ายแล้ว ยังช่วยป้องกันอันตรายสำหรับผู้ใช้งานอีกด้วย ปั๊มน้ำประเภทปั๊มแรงเหวี่ยง (Centrifugal) มีวิธีบำรุงรักษาอย่างไร? ส่วนประกอบที่สำคัญของเครื่องปั๊มน้ำประเภทนี้ที่เราต้องดูแลรักษาได้แก่ ตัวปั๊มน้ำ, เพลาหรือแกนปั๊มน้ำ, ลูกปืน, ซีล, ใบพัด และยอยโซ่หรือยอยยาง
วิธีบำรุงรักษาเครื่องปั๊มน้ำ มีขั้นตอนดังนี้
1.ตัวปั๊ม ต้องตรวจสอบระดับน้ำมันเกียร์ให้อยู่ในระดับที่กำหนด 
2.เพลาหรือแกนปั๊มน้ำต้องมีการอัดจารบีทุกๆ การใช้งานที่ 50-60 ชั่วโมง
3.ประเกนคอเพลาควรเปลี่ยนใหม่เมื่อหมดประสิทธิภาพ 
4.ตัวปั๊มและใบพัด ต้องมีการตรวจสอบน๊อตและสกรูอยู่เสมอ
5.เพื่อป้องกันใบพัดสึกเร็ว ต้องอย่าให้ปลายท่อดูดลงไปใกล้กับพื้นทรายมากเกินไป
6.ยอยโซ่หรือยอยยาง ต้องตรวจสอบไม่ให้หลวมหรือตึงมากเกินไป
การบำรุงรักษาเครื่องปั๊มน้ำข้างต้น ต้องปฏิบัติให้ครบทุกข้อ หากทำเพียงบางชิ้นส่วน ส่วนที่ไม่ดูแลรักษาก็จะชำรุดเสียหายได้

การออกแบบท่อและอุปกรณ์อื่นที่สัมพันธ์กันอย่างเหมาะสม

การออกแบบท่อและอุปกรณ์อื่นที่สัมพันธ์กันอย่างเหมาะสม

         เป็นอีกวิธีที่ช่วยอนุรักษ์พลังงานได้ จากการลดภาระของปั๊ม โดยการเลือกระบบท่อ วาล์ว ข้อต่อ และอุปกรณ์ส่งถ่ายกำลังมอเตอร์กับปั๊มให้เหมาะสม เพราะการออกแบบท่อและอุปกรณ์ต่างๆ มีผลกับเฮดของระบบ ตัวอย่างเช่น 
-การเลือกต่อท่อแบบตัว T หรือ แบบตัว Y 
พบว่าการต่อท่อแบบตัว T จะเกิดการสูญเสียในระบบมากกว่าการต่อท่อแบบตัว Y และการปรับตั้งแนวการขับ (Aliment) จะช่วยยืดอายุการใช้งานของปั๊มน้ำและมอเตอร์ นอกจากนั้นยังเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เนื่องจากหากเกิดการเยื้องสูญจะทำให้เกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์ต่างๆ เช่น คับปลิ้ง แบริ่ง ลูกปืน เพลาส่งกำลังและยังส่งผลให้ภาระของมอเตอร์เพิ่มขึ้น
-ลักษณะการต่อปั๊มแบบน้ำเข้าก่อนและออกก่อนจะทำให้ประสิทธิภาพของปั๊มน้ำต่างกัน ทำให้ปั๊มตัวสุดท้ายมีอัตราการสูบน้อยแต่กินพลังงานไฟฟ้าสูง ส่วนการต่อแบบน้ำเข้าก่อนและออกหลังประสิทธิภาพของปั๊มจะไม่แตกต่างกันมากนัก
หากคุณต้องการปั๊มน้ำ เลือกชมสินค้าและสั่งซื้อได้ง่ายๆ ทางเว็บไซต์ออนไลน์

มอเตอร์ (Motor) เครื่องมือส่งพลังงานให้ปั๊มน้ำทำงาน

มอเตอร์ (Motor) เครื่องมือส่งพลังงานให้ปั๊มน้ำทำงาน
          เราทราบส่วนประกอบและหลักการทำงานของปั๊มน้ำประเภทปั๊มแรงเหวี่ยง (Centrifugal) กันไปบ้างแล้ว บทนี้เรามาทำความรู้จักเพิ่มเติมเกี่ยวกับ "มอเตอร์" มอเตอร์ (Motor) เครื่องมือส่งพลังงานให้ปั๊มน้ำทำงาน เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานกล การหมุนของมอเตอร์เกิดจากการหมุนของขดลวดพันรอบแกนโลหะที่วางอยู่ระหว่างขั้วแม่เหล็ก เมื่อผ่านกระสไฟฟ้าเข้าไปยังขดลวด โดยทั่วไปมอเตอร์มีอยู่ 2 ประเภท คือ 
1. มอเตอร์กระแสตรง (DC Motor) ต้องใช้ไฟฟ้ากระแสตรงป้อนผ่านเข้าไปในขดลวดอาร์เมเจอร์ เพื่อทำให้มอเตอร์หมุน ซึ่งเกิดจากการดูดและผลักกันของแม่เหล็กถาวรกับแม่เหล็กไฟฟ้าที่เกิดจากขดลวดมอเตอร์จึงหมุนได้
2. มอเตอร์กระแสสลับ (AC Motor) ต้องใช้ไฟฟ้ากระแสสลับป้อนผ่านเข้าไปในขดลวดอาร์เมเจอร์ เพื่อทำให้มอเตอร์หมุน ซึ่งเกิดจากการดูดและผลักกันของแม่เหล็กถาวรกับแม่เหล็กไฟฟ้าที่เกิดจากขดลวดมอเตอร์จึงหมุนได้
การใช้ปั๊มน้ำที่มีมอเตอร์เป็นส่วนประกอบ มีข้อควรระวังในเรื่องมอเตอร์ไหม้ เนื่องจากเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทนี้ในช่วงที่ไฟตก หรือแรงดันไฟฟ้าไม่ถึง 220 โวลต์ มอเตอร์จะไม่หมุนและทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าดันกลับ จะทำให้ขดลวดร้อนจัดจนเกิดไหม้เสียหายได้

วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2556

วิธีอนุรักษ์พลังงานของปั๊มน้ำ โดยการควบคุมความเร็วรอบของปั๊ม

วิธีอนุรักษ์พลังงานของปั๊มน้ำ โดยการควบคุมความเร็วรอบของปั๊ม

            วิธีอนุรักษ์พลังงานของปั๊มน้ำ โดยการควบคุมความเร็วรอบของปั๊ม เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการควบคุมการไหล เพราะเมื่อความเร็วรอบของเครื่องสูบลดลงจะใช้พลังงานน้อยลงด้วย การลดความเร็วรอบ วิธีที่ใช้มากที่สุดคือ การใช้อินเวอร์เตอร์ หรือ VSD (Variable Speed Drives) ช่วยเปลี่ยนแปลงความเร็ว อินเวอร์เตอร์ (Inverter) หรือเรียกว่า V/F Control เป็นอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ที่ใช้ในการปรับเปลี่ยนความเร็วรอบของ 3-Phase Squirrel-Cage Induction Motor โดยวิธีการปรับแรงดันและความถี่ไฟฟ้าให้เหมาะสมกับมอเตอร์ 
หลักการทำงานของอินเวอร์เตอร์ ประกอบด้วยโครงสร้างภายใน 3 ชุด คือ 
-ชุดคอนเวอร์เตอร์ (Converter Circuit) จะแปลงไฟกระแสสลับ (AC) จากแหล่งจ่ายไฟทั่วไปที่มีแรงดันและความถี่คงที่ให้เป็นไฟกระแสตรง (DC)
-ชุดอินเวอร์เตอร์ (Inverter Circuit) จะแปลงไฟกระแสตรง (DC) ให้เป็นไฟกระแสสลับ (AC) ที่สามารถเปลี่ยนแปลงแรงดันและความถี่ได้
-ชุดวงจรควบคุม (Control Circuit) ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของชุดคอนเวอร์เตอร์และชุดอินเวอร์เตอร์

การเลือกใช้ปั๊มน้ำที่มีขนาดเหมาะสมต่อการใช้งานจริง

การเลือกใช้ปั๊มน้ำที่มีขนาดเหมาะสมต่อการใช้งานจริง

              วิธีอนุรักษ์พลังงานของปั๊มน้ำ วิธีแรกก็คือ การเลือกใช้ปั๊มน้ำที่มีขนาดเหมาะสมต่อการใช้งานจริง โดยพิจารณาถึงคุณสมบัติของปั๊มน้ำแต่ละชนิด อัตราการไหลที่ต้องการ ชนิดของเหลว อุณหภูมิของของเหลว เนื่องจากการเลือกใช้ปั๊มน้ำผิดประเภท ปั๊มมีขนาดเล็กหรือใหญ่เกินไปจะทำให้เกิดการเสียหายของปั๊ม จะทำให้ประสิทธิภาพลดลงและเกิดการสิ้นเปลืองพลังงาน ตัวอย่างเช่น การเลือกใช้ปั๊มน้ำอัตโนมัติของบ้านพักอาศัย
-บ้าน ขนาดไม่เกิน 2 ชั้น และมีการใช้น้ำพร้อมกันไม่เกิน 2 จุด ปั๊มน้ำที่เหมาะสม ควรเลือกใช้ขนาด 100 watt
-บ้าน ขนาดไม่เกิน 2 ชั้น และมีการใช้น้ำพร้อมกันไม่เกิน 2 จุด มีเครื่องทำน้ำอุ่น 1 เครื่อง ปั๊มน้ำที่เหมาะสม ควรเลือกใช้ขนาด 150 watt
-บ้าน ขนาดไม่เกิน 3 ชั้น และมีการใช้น้ำพร้อมกันไม่เกิน 2 จุด มีเครื่องทำน้ำอุ่น 1 เครื่อง ปั๊มน้ำที่เหมาะสม ควรเลือกใช้ขนาด 200 watt
-บ้าน ขนาดไม่เกิน 4 ชั้น และมีการใช้น้ำพร้อมกันไม่เกิน 3 จุด มีเครื่องทำน้ำอุ่น 1 เครื่อง ปั๊มน้ำที่เหมาะสม ควรเลือกใช้ขนาด 250 watt
ดังนั้นก่อนเลือกซื้อปั๊มน้ำมาใช้งาน อย่าลืมเลือกขนาดให้เหมาะสมกับบ้านของคุณ

ส่วนประกอบและหลักการทำงานของปั๊มน้ำประเภทปั๊มแรงเหวี่ยง (Centrifugal)

              ปั๊มน้ำประเภทปั๊มแรงเหวี่ยง (Centrifugal) เป็นปั๊มน้ำประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากมีความยืดหยุ่นในการใช้งานสูงและดูแลรักษาง่าย มีชื่อเรียกอีกว่า “ปั๊มหอยโข่ง” 
ส่วนประกอบของปั๊มน้ำประเภทนี้ ได้แก่ มอเตอร์ และใบพัด (impeller) อยู่ในเสื้อเครื่องรูปหอยโข่ง (Volute Casing) หลักการทำงาน 
1.มอเตอร์ส่งพลังงานโดยผ่านเพลาซึ่งมีใบพัดติดอยู่ เพื่อทำให้ใบพัดหมุน 
2.เมื่อใบพัดหมุนจะดูดเอาน้ำจากทางด้านดูดน้ำภายในปั๊มจะไหลจากส่วนกลางของใบพัดไปสู่ส่วนปลายของใบพัด (Vane) ด้วยการกระทำของแรงเหวี่ยงหนีจุดศูนย์กลางจากแผ่นใบพัด ซึ่งจะทำให้เฮดความดัน (Pressure Head) ของเหลวเพิ่มขึ้น
3.เมื่อของเหลวได้รับความดันเพิ่มทำให้มีเฮดความเร็วสูงขึ้นด้วย ส่งผลให้เกิดการไหลของของเหลวจากปลายใบพัดเข้าสู่เสื้อเครื่องรูปหอยโข่ง จากนั้นออกไปสู่ทางออกของปั๊มผ่านทางด้านจ่ายออก 
ผลจากการหมุนของใบพัดนี้ จะทำให้เกิดสุญญากาศเกิดขึ้นทางด้านดูด ทำให้การดูดอย่างต่อเนื่องตลอดเวลาที่มอเตอร์ทำงานอยู่
คุณสามารถเลือกซื้อปั๊มน้ำประเภทนี้ได้ง่ายๆ ทางเว็บไซต์

วิธีอนุรักษ์พลังงานของปั๊มน้ำ โดยการเปลี่ยนใบพัดและลดขนาดของใบพัด

วิธีอนุรักษ์พลังงานของปั๊มน้ำ โดยการเปลี่ยนใบพัดและลดขนาดของใบพัด

          วิธีอนุรักษ์พลังงานของปั๊มน้ำ โดยการเปลี่ยนใบพัดและลดขนาดของใบพัด ใช้ได้กับปั๊มน้ำแบบใบพัด ซึ่งทำงานโดยอาศัยการหมุนของใบพัดไปทำให้เกิดแรงดันจ่ายไปตามท่อน้ำ 
การเปลี่ยนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของใบพัด เป็นวิธีที่สามารถควบคุมอัตราการไหลในปั๊มน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพด้านพลังงาน อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาถึงสิ่งต่อไปนี้
-การตัดแต่งใบพัดไม่ควรตัดแต่งใบพัดเกินกว่า 25% ของขนาดใบพัดเดิม เพราะจะทำให้เกิดการสั่นสะเทือน เนื่องจากการเกิดฟองอากาศ ซึ่งจะเป็นการลดประสิทธิภาพของเครื่องสูบ
-ต้องตัดแต่งใบพัดให้เท่าๆ กันทุกด้านเพื่อรักษาระดับความสมดุลของปั๊ม
-เปลี่ยนใบพัดชุดใหม่เป็นวิธีที่ดีกว่าการตัดแต่งใบพัด (มีโอกาสเสียความสมดุลได้) แต่มีราคาแพง จึงควรพิจารณาว่าการลดขนาดโดยวิธีการใดจึงจะให้ประโยชน์ในการใช้งานสูงสุด
-ปั๊มขนาดเดียวกัน ปั๊มที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางมากกว่าจะสร้างแรงดันได้สูงกว่าปั๊มที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางที่น้อยกว่า ปั๊มน้ำแบบใบพัด เรียกแตกต่างกันออกไปตามรูปร่างลักษณะของปั๊ม เช่น ปั๊มหอยโข่ง ปั๊มไดโว่ เป็นต้น

วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2556

วิธีอนุรักษ์พลังงานของปั๊มน้ำ โดยควบคุมการเปิดวาล์วด้านดูดและวาล์วด้านจ่าย

วิธีอนุรักษ์พลังงานของปั๊มน้ำ โดยควบคุมการเปิดวาล์วด้านดูดและวาล์วด้านจ่าย

         ปั๊มน้ำ มีหลักการทำงานโดยทั่วไปแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ด้านจ่ายของปั้ม และ ด้านดูดของปั้ม การอนุรักษ์พลังงานของปั๊มน้ำ ด้วยการควบคุมการเปิดวาล์วด้านดูดและวาล์วด้านจ่าย เป็นวิธีหนึ่งที่จะลดปริมาณการไหลของของเหลวในระบบ โดยอาศัยการควบคุมการเปิดวาล์วทำอัตราการไหล และความเร็วของการไหลในระบบลดลง ส่งให้เฮดลดลงและให้กำลังของปั๊มลดลงด้วยแต่การควบคุมวิธีนี้ควรพิจารณา Curves Pump ด้วยเพื่อป้องกันการเกิดคาวิเทชั่นคาวิเทชั่น (Cavitation) หรือปรากฏการณ์การเกิดโพรงไอ เป็นปรากฎการณ์ที่น้ำเปลี่ยนสถานะจากของเหลวกลายเป็นไอ และมีปริมาตรเพิ่มขึ้นเนื่องจากการขยายตัวและยุบตัวลงในภายหลัง เพราะเมื่อน้ำไหลผ่านส่วนต่างๆของปั๊มนั้น น้ำจะเปลี่ยนแปลงความเร็วในการเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา เนื่องมาจากปั๊มน้ำมีการเปลี่ยนแปลงพื้นที่หน้าตัดหรือรูปร่างลักษณะของปั้มและสถานการณ์อื่น ๆ ที่ส่งผลให้แรงดันของน้ำเพิ่มขึ้นและลดลงอยู่ตลอดเวลาโดยลำดับ ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ทำให้เกิดการสูญทั้งเสียเวลาและกำลังคนที่ใช้ในการแก้ไข ซึ่งอาจกินเวลานานถ้าเราไม่รู้สาเหตุที่แท้จริงของการเกิดคาวิเทชั่นหากคุณต้องการปั๊มน้ำ เลือกชมสินค้าและสั่งซื้อได้ง่ายๆ ทางเว็บไซต์ออนไลน์

วันพฤหัสบดีที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2556

การติดตั้งอย่างง่าย


การติดตั้งอย่างง่าย

           ในการต่อท่อระหว่างท่อน้ำประปากับปั๊มน้ำนั้น ควรต่อให้ได้ระดับไม่ใช่ต่อแบบต้องอยู่ในแนวยกท่อเพราะการท่อต่อจะทำได้ไม่ดี ทำให้เกิดการรั่วไหลของน้ำได้ อีกทั้งอาจจะทำให้ท่อแตกได้เพราะแรงสั่นสะเทือนจากปั๊มน้ำขณะมีการทำงาน การต่อสายไฟฟ้าควรคำนึงถึงขนาดของมอเตอร์ของเครื่องปั๊มน้ำ อย่าใช้ขนาดสายไฟที่เล็กเกินไปเพราะจะทำให้สายไฟเกิดการหลอมละลายได้หากมีการทำงานหนักซึ่งจะทำให้ปั๊มน้ำชำรุดและเกิดความเสียหายกับผู้ใช้งานได้ ไม่ควรใช้สายไฟที่เกิดจากการตัดต่อเองแบบไม่ได้มาตรฐาน และควรเดินสายไฟภายในท่อพีวีซี เพื่อไม่ให้สายไฟเปราะก่อนเวลาเนื่องจากการโดนแดน ลม ฝน ควรมีตัวตัดไฟของปั๊มน้ำแยกต่างหากเพราะหากเกิดอุบัติเหตุสามารถหยุดไฟของเครื่องปั๊มน้ำได้ทันทีไม่ต้องรอเข้าไปตัดกระแสไฟฟ้าภายในบ้านซึ่งอาจจะอยู่ไกลซึ่งอาจจะไม่ทันการในการตัดกระแสไฟฟ้า ทั้งนี้ควรคำนึงถึงความปลอดภัยในการติดตั้งและควรอยู่ไกลมือเด็กเพื่อกันการอยากรู้อยากเห็นของเด็กเล็ก

วันพุธที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2556

ขนาดปั๊มน้ำกับการติดตั้ง


ขนาดปั๊มน้ำกับการติดตั้ง


         หลังจากที่ได้เลือกขนาดปั๊มน้ำให้เหมาะสมกับที่กักเก็บน้ำรวมถึงต้องคำนึงถึงจำนวนของคนที่อยู่อาศัยภายในบ้าน โดยต้องคำนึงการติดตั้งที่ใช้ช่างผู้ชำนาญการเพราะหากติดตั้งไม่ดีนั้นการยึดระหว่างปั๊มน้ำกับพื้นดินอาจจะไม่แน่นเมื่อมีลมพัดกระโชกแรงอาจจะทำให้เกิดอันตรายต่อตัวบ้านและคนที่เดินอยู่แถวนั้นได้ และควรติดตั้งปั๊มน้ำในพื้นที่ร่ม เพราะหากตั้งกลางแจ้งเมื่อมีการโดนแดด โดนลม โดนฝน ปั๊มน้ำจะขึ้นสนิมและพุกร่อนได้เร็วกว่าอายุการใช้งานที่มีไว้ และสถานที่ต้องมีการถ่ายเทได้สะดวกเพราะเครื่องปั๊มน้ำนั้นมีมอเตอร์ในการทำงานและเป็นการลดความร้อน ควรมีฝาครอบปั๊มเพื่อไม่ให้มีเศษใบไม้ กระดาษหรือเศษอื่นๆ เข้าไปติดขัดภายในใบพัด และอาจจะไปขัดขวางการทำงานของปั๊มน้ำ ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อให้สามารถยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานกว่าปกติ และฐานของปั๊มน้ำให้อยู่สูงจากพื้นดินเพื่อกันน้ำท่วมหรือน้ำขังจากการที่ฝนตกหนักจะได้ไม่เป็นสนิมและปลอดภัยจากการรั่วของไฟฟ้า 

วันอังคารที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2556

การติดตั้งถังน้ำสเตนเลส


การติดตั้งถังน้ำสเตนเลส


           ในการติดตั้งปั๊มน้ำสำหรับถังน้ำสเตนเลสควรจะทำการติดตั้งใกล้ท่อน้ำประปาที่เชื่อมต่อมาจากมิเตอร์น้ำประปามากที่สุด เพื่อให้น้ำสามารถไหลเข้าสู่ถังน้ำได้อย่างสะดวก ควรใช้ท่อน้ำที่ไหลเข้าถังไม่เล็กเกินไปเพราะท่อเล็กจะทำให้น้ำไหลเข้าสู่ถังเก็บน้ำช้า ส่วนในการเคลื่อนย้ายหรือการติดตั้งนั้นต้องมีความระมัดระวังไม่ให้เกิดการกระเเทกของของมีคม ไม่ว่าจะเป็นหินหรือเหล็ก ซึ่งจะทำให้ถังชำรุดจนเสียหายไม่สามารถใช้การได้ อาจจะมีการรั่วไหลของน้ำ และในการติดตั้งถังเก็บน้ำนั้นต้องคำนึงถึงเวลาที่ต้องมีการซ่อมแซมหรือการบำรุงรักษาไม่ให้ยากเกินไปในการเข้าถึง และควรมีการติดตั้งยึดกับพื้นให้แน่นหรือควรมีการเติมน้ำให้เต็มถังอยู่ตลอดเวลาเพราะหากตั้งในที่โล่งแจ้งเวลามีลมพายุแรงอาจจะทำให้ถังเก็บน้ำนั้นฟาดเข้ากับตัวบ้านหรือล้มไปโดนคนอื่นได้ง่าย สำหรับในพื้นที่ที่ดินอ่อนมาก ควรจะทำการเทพื้นซีเมนต์ก่อนการตั้งปั๊มน้ำเพื่อให้มีพื้นที่ในการยึดจับของถังน้ำ